ปริมาณแก๊สที่หัวฉีดแก๊สจ่ายให้กับเครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
หัวฉีดแก๊สเป็นอุปกรณ์ตัวสุดท้ายที่จะจ่ายแก๊สให้กับเครื่องยนต์ ดังนั้นหัวฉีดแก๊สจะต้องทำงานได้เร็ว ทั้งเปิดและปิดแก๊ส และต้องทำงานได้เท่ากันทุกๆ หัว จึงจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดี
ปริมาณแก๊สที่หัวฉีดจะจ่ายได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการออกแบบของหัวฉีดในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ส่วนมากแล้ว ปริมาณของแก๊สที่ถูกหัวฉีดจ่ายออกไปจะขึ้นอยู่กับ
1). ขนาดของรูของหัวฉีดแก๊สอาจจะสามารถขยาย หรือไม่สามารถขยายก็ได้ ถ้าสามารถขยายได้ ช่างจะเจาะให้เหมาะกับขนาดของเครื่องยนต์นั้นๆ ถ้าไม่สามารถขยายได้ จะต้องเลือกเบอร์ของหัวฉีดให้เหมาะสมกับขนาดของเครื่องยนต์
2). ระยะยกของหัวฉีด หรือระยะในการเปิด ถ้าระยะยกสั้นการจ่ายก็จะได้ปริมาณน้อย ข้อดีคือทำงานได้เร็ว ถ้าระยะยกมากจะจ่ายแก๊สได้ปริมาณมาก ข้อเสียคือทำการเปิดปิดได้ช้า
3). เวลาในการยกของหัวฉีดแก๊ส (เวลาในการเปิด) ซึ่งจะถูกควบคุมโดยกล่อง ECU เปิดน้อยเมื่อต้องการแก๊สน้อย เปิดนานเมื่อต้องการแก๊สมาก เวลาจูนแก๊ส ช่างที่ปรับจุนจะควบคุมตัวนี้แหละ
ซึ่งโปรแกรมแต่ละยี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อเป็นตัวเลขในตารางที่มีความเร็วรอบเครื่องยนต์และเวลาในการฉีดของหัวฉีดน้ำมัน บางยี่ห้ออาจจะเป็นเส้นกราฟใช้วิธียกกราฟเป็นเส้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีสิ่งสุดท้ายที่ควบคุมก็คือ เวลาในการเปิดค้างของหัวฉีดแก๊สนั่นเอง
สิ่งที่น่าห่วงที่สุดของทั้ง 3 ข้อ ข้างบนก็คือ ระยะยกของหัวฉีด ระยะยกอาจมีการเปลี่ยนเมื่อเกิดการสึกหรอของหัวฉีด หรือมีสิ่งสกปรกในหัวฉีดแก๊ส เนื่องจากระยะยกของหัวฉีดค่อนข้างสั้นมาก ถ้ามีการสึกหรอ หรือมีสิ่งสกปรกจะทำให้ระยะไม่เท่ากัน ทำให้จ่ายแก๊สแต่ละหัวไม่เท่ากัน จึงทำให้เครื่องยนต์สะดุด เดินเบาไม่เรียบ กระตุก การสึกหรอของเครื่องยนต์มากกว่าปกติ
ดังนั้นเราควรเลือกใช้หัวฉีดแก๊สที่มีคุณภาพสูง เข้าไปตรวจเช็คระบบแก๊สจากช่างผู้ชำนาญงานเป็นประจำ จะทำให้ท่านใช้รถคันโปรดได้ยาวนาน