ทำไมต้องเปลี่ยนกรองแก๊ส
ในระบบหัวฉีดแก๊ส LPG สำหรับรถยนต์ ส่วนใหญ่จะมีกรองอยู่ 3 จุด
1). เป็นกรองหยาบที่อยู่ที่ปลายท่อดูดของ Multivalve ที่อยู่ในถังแก๊ส กรองตัวนี้ปกติจะไม่ตัน เนื่องจากมีรูขนาดใหญ่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
2). กรองน้ำแก๊สทางเข้าหม้อต้มแก๊ส จะเป็นกรองละเอียดขึ้นมาหน่อย ส่วนใหญ่ที่ใช้กันก็จะเป็นกรองกระดาษ ปกติแล้วทางบริษัทผู้ผลิตจะแนะนำให้เปลี่ยนในระยะทางมากกว่า 40,000 กม. ขึ้นไป
กรองหม้อต้มใหม่ กรองที่ผ่านการใช้งานแล้ว 80,000 กม.
3). กรองไอแก๊ส จะเป็นกรองที่ละเอียดมาก สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มากับไอแก๊ส ดักพวกน้ำมันต่างๆได้ ภายในกรองอาจจะเป็นกรองกระดาษหรือโฟม หรือไม่ก็เป็นไฟเบอร์กลาส ซึ่งจะกรองได้ดีและมีอายุการใช้งานนานกว่ากรองกระดาษ
กรองกระดาษและกรองโฟมอาจจะต้องเปลี่ยนทุกๆ 15,000-20,000 กม. ส่วนกรองที่ทำจากไฟเบอร์กลาสจะมีอายุการใช้งานนานกว่าประมาณ 30,000-40,000 กม. ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแก๊ส
บางท่านถามว่ากรองแก๊ส เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนเองได้ไหม ซึ่งดูๆ แล้ว เปลี่ยนง่ายมาก จากการเก็บข้อมูล พบว่าการเปลี่ยนกรองแก๊สใหม่ จะทำให้แรงดันของแก๊สเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3-0.5 bars ซึ่งมีผลกับปริมาณการจ่ายแก๊ส ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับแรงดันแก๊สให้ได้ตามสเป็คของระบบแก๊ส และปรับจูนการจ่ายแก๊ส โดยใช้โปรแกรมจูนจากช่างผู้ชำนาญ เพื่อปรับการจ่ายแก๊สยี่ห้อนั้นๆ
จากรูป เป็นการเปรียบเทียบแรงดันแก๊สก่อนและหลังเปลี่ยนกรองแก๊ส
จะเห็นว่าแรงดันแก๊สจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่เราเปลี่ยนกรองแก๊สใหม่เข้าไป
อีกประการหนึ่ง การเปลี่ยนกรองแก๊สทุกครั้ง ควรตรวจสอบท่อยางแก๊ส ถ้าพบว่ามีการแข็งตัว แตกร้าว เสียรูปต้องเปลี่ยนทันที รวมถึงเข็มขัดรัดท่อยางแก๊สด้วย ไม่เช่นนั้นแก๊สที่มีแรงดันอาจจะเกิดการรั่วซึมได้
ดังนั้นอย่าเสียดายค่าเซอร์วิสเล็กๆน้อย ควรเข้าไปรับบริการกับอู่ที่ติดตั้งแก๊สที่มีคุณภาพทุกครั้ง ท่านจะใช้รถด้วยความสบายใจและปลอดภัย